Grammar

กริยานุเคราะห์หรือกริยาช่วย (Helping Verbs / Auxiliary verbs) คืออะไร

กริยาช่วยคือกริยาที่วางอยู่หน้ากริยาหลัก (main verb) ในประโยคเสมอ มีหน้าที่ทำให้ประโยคสมบูรณ์ ตามโครงสร้างประโยคดังนี้ Subject + helping verb + main verb + (object) ประธาน + กริยาช่วย + กริยาหลัก + (กรรม) กริยาช่วยในภาษาอังกฤษมีดังนี้ กริยาช่วยกลุ่ม to be ได้แก่ is, am, are, was, […]

การใช้ has/have vs has got/have got

has/have และ has got/have got แปลว่า มี สามารถใช้แทนกันได้ มีความหมายเดียวกัน ในกรณีต่างๆดังนี้ ใช้ในการแสดงความเป็นเจ้าของ (possession) เช่น I have a new bag.  =  I have got a new bag.  ฉันมีกระเป๋าใบใหม่ She has a dog.  =  She has got a dog.   หล่อนมีสุนัข 1 ตัว ใช้พูดถึงครอบครัว/ความสัมพันธ์ (relationship) เช่น I have a new girlfriend.  =  I […]

การใช้ Comparative และ Superlative Adjectives

Comparison of Adjectives – การใช้คำคุณศัพท์ในการเปรียบเทียบ คำคุณศัพท์ คือ คำที่ทำหน้าที่ขยายคำนาม ซึ่งการใช้คำคุณศัพท์ในการเปรียบเทียบมีอยู่ 3 ขั้นคือ ขั้นปกติ (Positive/Regular), ขั้นกว่า (Comparative), และขั้นสุด (Superlative) คำคุณศัพท์ขั้นปกติ (Positive/Regular Adjectives) คือ คำคุณศัพท์ปกติที่เราใช้ขยายนามโดยทั่วไป ไม่ได้มีการเปรียบเทียบกับสิ่งใดๆ เช่น big (ใหญ่), large (ใหญ่), small (เล็ก), tall (สูง), long (ยาว), short (เตี้ย/สั้น), fast (เร็ว), slow (ช้า), high (สูง), low (ต่ำ), fat (อ้วน), thin (ผอม), easy (ง่าย), difficult […]

Countable and Uncountable Nouns คืออะไร?

count แปลว่า นับ, able แปลว่า สามารถทำได้, count + able = countable แปลว่า สามารถนับได้ เพราะฉะนั้น countable nouns จึงมีความหมายว่า คำนามที่สามารถนับได้ หรือ คำนามนับได้ นั้นเอง เช่นเดียวกับ uncountable nouns เมื่อเราใส่ un- ไว้หน้าคำศัพท์ใดๆจะมีความหมายว่าไม่ ทำให้มีความหมายตรงข้ามกับคำเดิม ดังนั้น uncountable nouns จึงมีความหมายว่า คำนามนับไม่ได้ รู้หรือไม่ว่าคำนามในภาษาอังกฤษไม่ใช่คำนามที่นับได้ทุกคำ การที่เราสามารถแยกได้ว่าคำนามกลุ่มไหนเป็นคำนามนับได้ (Countable Nouns) และคำนามกลุ่มไหนเป็นคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Nouns) สามารถช่วยให้เราใช้หลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษได้ดีและถูกต้องมากยิ่งขึ้น เพราะเนื้อหาเกี่ยวกับ Countable Nouns กับ Uncountable Nouns นั้นเชื่อมโยงกับเนื้อหาอื่นๆอีกหลายๆเรื่อง หากเราไม่เข้าใจเนื้อหาส่วนนี้ให้ดี จะทำให้ยากที่จะนำไปใช้กับเรื่องอื่นๆให้ถูกต้องเช่นกัน […]

การใช้ some และ any

some และ any มีความหมายว่า บ้าง, มีอยู่บ้าง, บางส่วน, จำนวนหนึ่ง มักจะใช้เมื่อผู้พูดไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่นอนได้หรือไม่ต้องการระบุจำนวนที่แน่นอน some : เราจะใช้ some ในประโยคบอกเล่า ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับนามนับได้และนามนับไม่ได้ เช่น We bought some good presents for our parents last New Year.  เราซื้อของขวัญที่ดีจำนวนหนึ่งให้พ่อแม่ของเราในวันปีใหม่ปีที่ผ่านมา There was some snow last two weeks.  มีหิมะตกอยู่บ้างเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว There are some butterflies on the roof.   มีผีเสื้อจำนวนหนึ่งอยู่บนหลังคา I have some milk in […]

การใช้ a few, few, a little, little

ทั้ง a few, few, a little, little มีความหมายโดยรวมว่า นิดหน่อย, เล็กน้อย ซึ่งแต่ละคำมีความหมายไม่เหมือนกันซะทีเดียว วิธีการใช้ก็ไม่เหมือนกัน ดังนี้ a few กับ few : ทั้งคู่มีความหมายว่า นิดหน่อย, เล็กน้อย แต่ a few จะมีจำนวนมากกว่า few (a few > few) เราจะใช้ a few กับ few คู่กับนามนับได้ที่เป็นพหูพจน์ (plural countable noun) เสมอ a few / few + plural countable noun a few […]

การใช้ much, many, a lot of, lots of

much, many, a lot of, lots of ทั้งหมดนี้มีความหมายว่าจำนวนมาก/เยอะ/มีปริมาณมาก แต่มีวิธีการใช้ที่ต่างกัน สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ much และ many : เรามักจะใช้ much และ many ในประโยคที่มีความหมายในเชิงลบหรือประโยคปฏิเสธ และประโยคคำถาม  much = ปริมาณมาก ใช้คู่กับคำนามนับไม่ได้ (uncountable noun) เสมอ much + uncountable noun (นามนับไม่ได้) How much money do you want?    คุณต้องการเงินเท่าไหร่? How much the petrol is in the […]

การใช้ There is, There are

There is / There are แปลว่า มี ทั้งสองมีความหมายเหมือนกันแต่มีวิธีการนำไปใช้ต่างกัน ดังนี้ There is เขียนแบบย่อว่า There’s แปลว่า มี ใช้กับคำนามนับได้ที่เป็นเอกพจน์ (Singular) และนามนับไม่ได้ [ There is + นามนับได้เอกพจน์/นามนับไม่ได้ ] There are เขียนแบบย่อว่า There’re แปลว่า มี ใช้กับคำนามนับได้ที่เป็นพหูพจน์ (Plural) เท่านั้น [ There are + นามนับได้พหูพจน์ ] เนื่องจาก is/are เป็น verb to be ซึ่งมีการผันไปตาม tense ต่างๆ กิริยาสามช่องสำหรับ is คือ→ […]

การใช้ This, That, These, Those

This, That / These, Those เป็นศัพท์ที่ใช้ในการบอกตำแหน่งใกล้-ไกลของสิ่งของต่างๆ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่เป็นเอกพจน์ (Singular) กับกลุ่มที่เป็นพหูพจน์ (Plural) ดังนี้ กลุ่มที่เป็นเอกพจน์ (Singular) คือ This และ That  [this/that ⇒ เอกพจน์] This แปลว่า นี่ ใช้ในการพูดถึงสี่งที่เป็นเอกพจน์ที่อยู่ใกล้หรืออยู่ที่ตัวผู้พูด เช่น This is my younger sister, Jane.   นี่คือเจน น้องสาวของฉัน This cat is mine.   แมวตัวนี้เป็นของฉัน This guy isn’t very tall.   ผู้ชายคนนี้ไม่ค่อยสูงเท่าไหร่นัก Don’t […]

Possessive Forms [3-จบ] – Possessive Adjectives VS Possessive Pronouns

Possessive Adjectives VS Possessive Pronouns Possessive Adjectives คือคำคุณศัพท์ที่ใช้ในการแสดงความเป็นเจ้าของ ต้องใช้คู่คำนาม (ขยายคำนาม) เสมอ ไม่สามารถใช้อย่างโดดเดี่ยวได้ และต้องวางอยู่หน้าคำนามที่ต้องการแสดงความเป็นเจ้าของเสมอ ได้แก่ my (ของฉัน), your (ของคุณ→คนเดียว), her (ของเธอ), his (ของเขา), its (ของมัน), our (ของพวกเรา), your (ของพวกคุณ→หลายคน), their (ของพวกเขา) Possessive Adjectives + Nouns I love my family.   ฉันรักครอบครัวของฉัน Where is your house?   บ้านของคุณอยู่ที่ไหน? She lost her book at the school.   เธอลืมหนังสือของเธอไว้ที่โรงเรียน His […]